การส รัาง SIP Trunk เชื่อมระหว่างระบบ Asterisk
การเชื่อมการโทรศัพท์ระหว่างระบบ Asterisk ทำได้หลากหลายวิธี
วิธีที่เป็น standard ซึ่งสามารถใช้ได้กับหลากหลายระบบ รวมถึง asterisk ด้วยกับเอง
คือการเชื่อมโดยใช้ SIP Protocol
ตัวอย่าง ที่ 1: System A (192.168.0.22) เชื่อมกับ System B (192.168.0.144)
โดย ระบบ A มีเบอร์โทรศัพท์ 1xxx และ ระบบ B มีเบอร์โทรศัพท์ 2xxx
โดยทั้งสองระบบ จะต้องสามารถทำการโทรศัพท์ ถึงกันได้
ระบบ A (192.168.0.22)
file "sip.conf"
[siptrunk]
type=friend
host=192.168.0.144
context=default
nat=no
insecure=port
file "extensions.conf"
[default]
exten => _2.,1,Dial(SIP/${EXTEN}@siptrunk,30,tTr) ;สำหรับการโทรออก
exten => _2.,2,Hangup
exten => _1.,1,Dial(SIP/${EXTEN},30,tTr) ;สำหรับการรับสายเข้า หรือ การโทรภายใน
exten => _1.,2,Hangup
ระบบ B (192.168.0.144)
file "sip.conf"
[siptrunk]
type=friend
host=192.168.0.22
context=default
nat=no
insecure=port
file "extensions.conf"
[default]
exten => _1.,1,Dial(SIP/${EXTEN}@siptrunk,30,tTr) ;สำหรับการโทรออก
exten => _1.,2,Hangup
exten => _2.,1,Dial(SIP/${EXTEN},30,tTr) ;สำหรับการรับสายเข้า หรือ การโทรภายใน
exten => _2.,2,Hangup
โดย parameter ใน sip.conf ที่อาจจะต้องปรับเปลี่ยนตามข้อจำกัดต่างๆ มี ดังนี้
ใน กรณีที่ไม่ต้องการ authenticate ระหว่างระบบ และยังไม่ต้องการที่จะต้องสร้างเบอร์เพื่อที่จะมารองรับการ authenticate ระหว่างระบบจำเป็นต้องใช้ parameter "autocreatepeer" ร่วมกับ "insecure"
autocreatepeer=yes
insecure=port ; Allow matching of peer by IP address without matching port number
insecure=invite ; Do not require authentication of incoming INVITEs
insecure=port,invite ; (both)
insecure=very: ignore authentication (user/password)
ในกรณีอยู่ หลัง NAT Router
nat = yes|no|never|route ;ซึ่งหากอยู่หลัง nat router ต้อง set เป็น yes
ในกรณีที่ต้องการ ตรวจสอบ link หรือการเชื่อมต่อตลอดเวลา
qualify = yes
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
สมัครสมาชิก ส่งความคิดเห็น [Atom]
<< หน้าแรก